ด้วยการอัปเกรด iOS ของ Apple ในปีนี้ (2021) ซึ่งเพิ่มนโยบายการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ที่เน้น "ผู้ใช้เป็นสำคัญ" และการประกาศของ Google ที่จะเลิกใช้คุกกี้ของบุคคลที่สามภายในปี 2023 โดยจะใช้โครงการ Privacy Sandbox ใหม่แทนและด้วยนโยบายความเป็นส่วนตัว GDPR ของสหภาพยุโรปที่ดำเนินการเมื่อหลายปีก่อน แบรนด์ต้องเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของการได้มาซึ่งลูกค้าใหม่หรือแม้แต่การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าที่มีอยู่
เมื่อการเข้าถึงข้อมูลของบุคคลที่สามเผชิญกับความไม่แน่นอนมากแบรนด์จำเป็นต้องสร้างฐานข้อมูลของบุคคลที่หนึ่งของตนเองอย่างจริงจัง การใช้เครื่องมือการจัดการลูกค้าไม่เพียงแต่สามารถจัดการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ยังช่วยปรับปรุงการรักษาลูกค้า และช่วยให้รายได้ของบริษัทเติบโตในระยะยาว
แล้วคุณจะเลือกเครื่องมือการจัดการลูกค้าที่เหมาะสมได้อย่างไร?
ทำไมการจัดการข้อมูลลูกค้าอย่างจริงจังจึงสำคัญ?
แบรนด์ต่าง ๆ จะมีเส้นทางการเดินทางของลูกค้า (Customer journey) ที่กำหนดไว้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์อย่างไร เช่น การใช้บริการของแบรนด์เพื่อช่วยบรรลุเป้าหมายที่แบรนด์ตั้งไว้ และการจัดการข้อมูลลูกค้าก็สามารถมองว่าเป็นการมุ่งเน้นที่การเพิ่มการได้มาซึ่งลูกค้า (Customer acquisition) และการรักษาลูกค้า (Customer retention)
ในกรณีที่กลยุทธ์การตลาดระยะสั้นและกิจกรรมโฆษณายังคงไม่เปลี่ยนแปลง จำนวนลูกค้าที่ได้มาก็ควรจะคงที่ ในขณะนี้หากสามารถให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ จะสามารถเพิ่มอัตราการแปลงคำสั่งซื้อและการรักษาลูกค้าได้
หากเราคิดจากมุมมองของกฎ 80/20 บริษัทจะมีรายได้ 80% มาจากลูกค้า 20% ซึ่งลูกค้า 20% นี้มักจะเป็นลูกค้าที่ซื้อซ้ำ จะเห็นได้ว่าการมุ่งเน้นที่การรักษาลูกค้าที่มีอยู่แล้วมีความสำคัญ การที่จะเพิ่มการรักษาลูกค้าที่มีอยู่ให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นต้องเลือกเครื่องมือการจัดการลูกค้าที่เหมาะสม
(อ่านเพิ่มเติม: ทำไมอัตราการรักษาลูกค้าถึงสำคัญต่อความจงรักภักดีของลูกค้า ROI และการเติบโตของบริษัท?)
จะเลือกเครื่องมือจัดการลูกค้าที่เหมาะสมได้อย่างไร?
เครื่องมือจัดการลูกค้าที่ดีไม่เพียงแต่จัดการข้อมูลลูกค้าได้ แต่ยังช่วยให้เจ้าหน้าที่การตลาดและการขายใช้กลยุทธ์การตลาดดิจิทัล (Digital Marketing Strategy) ในการจัดการข้อมูลสมาชิกและเส้นทางของสมาชิกแต่ละราย ปรับปรุงกระบวนการลูกค้า กลยุทธ์การตลาดและการขาย ยกระดับบริการและความพึงพอใจของเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ จนนำไปสู่การเพิ่มอัตราการรักษาลูกค้า
ในเนื้อหาบทความถัดไป เราจะแนะนำเครื่องมือจัดการข้อมูลลูกค้าที่สามารถช่วยปรับปรุงความสัมพันธ์กับลูกค้า ซึ่งเหมาะสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในอุตสาหกรรมต่างๆ จำนวน 5 ประเภท ซึ่งจะช่วยให้แบรนด์สามารถใช้แนวคิด CRM ในการสร้างฐานข้อมูลสมาชิกแรกของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ทีมการตลาด การขาย และบริการลูกค้าบรรลุเป้าหมายของทีม และเพิ่มอัตราการรักษาลูกค้า
5 เครื่องมือจัดการลูกค้าที่เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
1. Hubspot
HubSpot เป็นบริษัทที่ให้บริการซอฟต์แวร์ที่รวมการตลาด การขาย และการบริการลูกค้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียว พนักงานขายสามารถดูแลกระบวนการติดต่อ การเจรจา และการสั่งซื้อกับลูกค้า รวมถึงการประเมินผลการทำงานของทีมผ่านมิติต่าง ๆ และกราฟ ข้อมูลทั้งหมดบนแพลตฟอร์มจะแสดงผลแบบเรียลไทม์และสามารถส่งออกด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว ช่วยให้ทีมการตลาดใช้สำหรับการตลาดใหม่ในภายหลัง และสามารถจัดการข้อมูลสำคัญได้อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ การตลาดแบบ Inbound Marketing ถูกนำเสนอครั้งแรกโดย HubSpot ซึ่งเชื่อว่าแบรนด์ที่สามารถสร้าง "ระบบนิเวศ" ออนไลน์ที่สมบูรณ์บนโดยไม่พึ่งพาปริมาณการโฆษณาชั่วคราว และมุ่งเน้นที่การสร้างปริมาณการเข้าชมของตนเอง จะสามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในโลกออนไลน์
2. Mixpanel
Mixpanel เป็นแพลตฟอร์มบริการซอฟต์แวร์ที่ให้การวิเคราะห์ข้อมูลการตลาด ที่สามารถสังเกตและวิเคราะห์พฤติกรรมการโต้ตอบของผู้ใช้กับผลิตภัณฑ์ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเสียเวลาและทรัพยากรทีมวิศวกรรมในการเขียน SQL หรือรอการสนับสนุนทางเทคนิค
ในการวิเคราะห์ตัวชี้วัด จะดูตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐานไปจนถึง DAU, MAU, อัตราการคงอยู่ของผู้ใช้ ฯลฯ สามารถตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์ และรองรับการติดตามข้ามอุปกรณ์ ทำให้สามารถเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าแต่ละราย ช่วยให้การกำหนดกลยุทธ์มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น และจับกลุ่มลูกค้าในเวลาจริงได้ นอกจากนี้ยังสามารถทำการทดสอบ A/B สำหรับการปรับปรุงเว็บไซต์หรือฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่เปิดตัว เพื่อติดตามผลลัพธ์ในช่วงเวลาที่กำหนด
3. Pipedrive
Pipedrive เป็นแพลตฟอร์ม CRM ที่มุ่งเน้นที่กระบวนการขาย ผ่านการแจ้งเตือนอัตโนมัติ ช่วยลดการนัดหมายลูกค้าที่ซ้ำซ้อน หน้าจอที่ชัดเจนสามารถแสดงขั้นตอนการขายในสถานะต่างๆ การวิเคราะห์ข้อมูลยังคำนวณยอดขายในอนาคตของแต่ละธุรกิจได้โดยอัตโนมัติ ทำให้สามารถปรับกลยุทธ์การขายได้ทันที
นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับ Salesforce แล้ว Pipedrive มีข้อกำหนดในการใช้งานที่น้อยกว่า แผนแบบพื้นฐานสามารถตอบสนองความต้องการของร้านค้าส่วนใหญ่ได้ และราคายังมีความสามารถในการแข่งขันได้มากกว่า รวมถึงรองรับหน้าจอและบริการลูกค้าเป็นภาษาจีนทั้งหมด ทำให้ลดระยะเวลาการปรับตัวในการใช้งานระบบ
4. 91 App
91 App เป็นแพลตฟอร์มเปิดร้านค้าออนไลน์ ในยุคที่พฤติกรรมการช็อปปิ้งออนไลน์ของผู้บริโภคเติบโตอย่างรวดเร็วและเส้นทางการเดินทางของลูกค้าก็เริ่มกระจัดกระจายมากขึ้น การเข้าใจพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าเดิมและลูกค้าเป้าหมายจึงยากขึ้นกว่าในอดีต การนำแนวคิดการตลาดอัตโนมัติมาใช้จึงมีความสำคัญ
91 App ไม่เพียงแต่ให้บริการการเปิดร้านค้าอีคอมเมิร์ซ แต่ยังมุ่งเน้นที่ "สมาชิกเป็นศูนย์กลาง" โดยใช้การรวมระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ (OMO) เพื่อสร้างโมเดลการจัดการค้าปลีกใหม่ที่เน้นการตลาดข้ามช่องทาง
โดยเฉพาะโซลูชัน OMO CRM ซึ่งสามารถรวมช่องทางต่างๆ เพื่อบันทึกพฤติกรรมการคลิกของลูกค้า และใช้ข้อมูล AI ในการคาดเดาผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าอาจสนใจ ช่วยให้สามารถเข้าใจสมาชิกได้ดีขึ้น และสร้างสภาพแวดล้อมที่ผสมผสานระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ได้อย่างง่ายดาย
5. OakMega Social CRM
OakMega เป็น บริษัท บริการซอฟต์แวร์ Social CRM ที่มุ่งเน้นไปที่การสร้างระบบการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้าด้วยซอฟต์แวร์ส่งข้อความโต้ตอบแบบทันที ที่ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงแหล่งข้อมูลของบุคคลที่หนึ่งแบบเรียลไทม์และสร้างความสัมพันธ์ระดับ VIP กับลูกค้า
ซอฟต์แวร์ส่งข้อความโต้ตอบแบบทันทีของ OakMega ได้กลายเป็นแนวโน้มที่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แบรนด์ต่างๆต้องการซอฟต์แวร์การโต้ตอบแบบทันที เช่น LINE เพื่อทำการสื่อสารโดยตรงกับลูกค้า และยังเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมอย่างมากในชีวิตประจำวันของคนไต้หวัน เพื่อบริหารแบรนด์ OakMega Social CRM มีอินเตอร์เฟซหลังบ้านที่ใช้งานง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้ ซึ่งช่วยให้การบริหารจัดการ LINE และซอฟต์แวร์การสื่อสารทันทีอื่นๆ เป็นเรื่องง่าย นอกจากนี้ ด้วยการนำแนวคิด CRM มาใช้ ทำให้สามารถติดตามผ่านแท็กและส่งข้อความที่ตรงกลุ่มเป้าหมายได้จริง ทำให้สามารถทำการโต้ตอบแบบหนึ่งต่อหนึ่ง สร้างฐานข้อมูลสมาชิก และพัฒนากลุ่มลูกค้า VIP ที่มีความภักดี รวมถึงเพิ่มอัตราการรักษาลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อสรุป
การสร้างและจัดการฐานข้อมูลลูกค้าเพื่อเพิ่มอัตราการรักษาลูกค้าเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการเติบโตอย่างต่อเนื่องของแบรนด์ การใช้แนวคิดที่เน้นข้อมูลเพื่อมอบเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของลูกค้าเดิมจะช่วยเพิ่มอัตราการรักษาลูกค้า และในวงจรการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าในช่วง Acquire (ดึงดูด) Engage (มีปฏิสัมพันธ์) Retain (รักษา) และ Grow (เติบโต) จะสามารถดึงดูดผู้ใช้งานที่มีศักยภาพให้เริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับแบรนด์ได้
H1 H1 H1 大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題
H2 H2 H2 大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題
H3 H3 H3 大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題大標題
改掉的字喔!
quote 引言的部份的部份的部份的部份的部份的部份的部份的部份的部份的部份的部份的部份的部份的部份的部份的部份的部份的部份的部份的部份的部份的部份的部份的部份
- 點點點點
- 第二個 item
- 23r2r
- 點點點
- 二案二二兒